ปัญหาประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

ปัจจุบันมีแต่การพูดถึงการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สาเหตุหลักคืออัตราการเกิดลดลง ตลอดจนการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน เช่น ขยายการเกษียณอายุ ขรก. ไปเป็น 65-70 ปี (คุณพระ! นี่กะให้ทำงานจนหง่อมเลยรึ จะเหลือเวลาให้นั่งจิบชา โขกหมากรุก ปลูกผัก เลี้ยงหมาแมว ซักกี่ปีกัน?), การวางแผน คชจ. หลังเกษียณ แต่ก็ดูจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ที่น่าแก้จริงๆคือ เรื่องอัตราการเกิดที่น้อย เพราะประชากรน้อย เศรษฐกิจก็โตช้านะเออ วันนี้ที่อยากจะแชร์กันจริงๆก็คือ ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงไม่ยอมมีลูกกันค่ะ

จขกท. อายุ 3X (สามสิบต้นๆ) แต่งงานมาหลายปีแล้วค่ะ พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ก็ถามกันจัง ว่าทำไมถึงไม่มีลูกซะที คำตอบก็คือ...ยังไม่พร้อม

ก่อนจะไปถึงว่ายังไม่พร้อมตรงไหน มาดูคนในสังคมรอบๆตัวเรากันดีกว่าค่ะ 2-3 ปีนี้ไปงานแต่งบ่อยมากกก ทั้งเพื่อนประถม มัธยม ป.ตรี ป.โท เพื่อนที่ทำงาน สารพัดเลย บทสรุปเรื่องลูกเป็นดังนี้ค่ะ
- เพื่อนประถม: มีลูกแล้วประมาณ 20% มีกลุ่มที่ลูกโตแล้ว (เกิดจากความผิดพลาดเมื่อเยาว์วัย) และกลุ่มที่ลูกเล็กๆ กลุ่มหลังมักมีกิจการส่วนตัว
- เพื่อนมัธยม: เพื่อนร่วมห้องเกือบ 60 ชีวิต ถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครมีลูกซักคนค่ะ!!! และเพิ่งมีแต่งงานไป 10 คนเอง
- เพื่อนมหาวิทยาลัย: มีลูกแล้วประมาณ 10% ทั้งหมดที่มีลูก คือที่บ้านมีกิจการ หรือแต่งงานกับคนที่มีกิจการ
- เพื่อนที่ทำงาน: ขอแยกเป็น 2 กลุ่มค่ะ a) กลุ่มตำแหน่งสูงรายได้ดี กลุ่มนี้ที่มีลูกทั้งหมดเป็นคุณพ่อ โดยมักให้ภรรยาออกมาเป็นแม่บ้าน หรือหาอะไรเล็กๆน้อยๆทำเพื่อดูแลลูก ส่วนสาวๆที่ตำแหน่งสูงรายได้ดี ไม่มีใครมีลูกเลย ทั้งๆที่บางคนก็พยายามมีนะคะ เข้าใจว่าอาจเป็นเรื่องของความเครียด และความรับผิดชอบในงาน (ซึ่งบางทีก็เดินทางบ่อย หรือกลับบ้านมืดค่ำ) b) กลุ่มปกติธรรมดา มีทั้งคุณพ่อและคุณแม่ค่ะ ครอบครัวมักทำงานกันทั้งพ่อทั้งแม่ ส่วนลูกจะฝากญาติเลี้ยง, จ้างคนเลี้ยง, หรือส่งกลับไปอยู่กับปู่ย่าตายายที่ต่างจังหวัด

ดังนั้น ข้อสรุปของเราคือ ถ้าจะมีลูก และอยากเลี้ยงลูกให้ได้ดีๆ จะต้องมีกิจการส่วนตัว (ที่ทำเงินงามๆ) ก่อน

เพราะปัจจุบันนี้ มนุษย์ลูกจ้างลืมตาอ้าปากยากมากค่ะ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ลูกจ้างในอดีต

30 ปีที่แล้ว พ่อกับแม่อายุเท่าเราตอนนี้ พ่อเงินเดือน 16k แม่เงินเดิน 8k ด้วยรายได้เท่านี้พ่อกับแม่สามารถมีบ้านทาวน์เฮ้าส์แถวห้าแยกลาดพร้าว ราคาประมาณ 200k (ผ่อน), รถเก๋งมือสอง 2 คัน (ซื้อสด), และมีลูก 2 คน เรียน รร.อนุบาลเอกชน (เรากับน้องนั่นเอง), ก๋วยเตี๋ยวชามละ 10 พิเศษ 15

ปัจจุบันนี้ถ้าเราต้องการใช้ชีวิตเท่าๆพ่อกับแม่ ทาวน์เฮ้าส์ทำเลเดิม ราคาถีบตัวขึ้นไป 8 ล้านแล้วค่ะ (จะหาทาวน์เฮ้าส์ 2-3 ล้านนี่ไกลลิบโลกมาก) ลองเปรียบเทียบค่าบ้านกับเงินเดือนในสมัยพ่อแม่คิดเป็น 8.33 เท่าของรายได้ครอบครัว ดังนั้นถ้าเราคิดจะซื้อบ้านที่ไปทำงานไม่ต้องขับรถข้ามจังหวัด (ซึ่งสมัยนี้ก็ติดดดดด ซะ) มีลูก และมีเงินส่งลูกเรียนได้ เราและแฟนควรมีรายได้รวมกัน 960,000 บาทต่อเดือน!!!

บ้าไปแล้ว...มนุษย์ลูกจ้างจะมีรายได้ขนาดนั้น ไม่พ้นต้องเป็น CEO กันทั้งสามีภรรยาค่ะ ในเมื่อมันไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นปัจจุบันนี้เรากับสามีใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดขนาด 25 ตร.ม. (ที่มีก๋วยเตี๋ยวชามละ 40 พิเศษ 50 อยู่หน้าคอนโด) เช้ามืดก็ออกไปทำงาน ค่ำก็กลับมานอนตาย ด้วยคุณภาพชีวิตแบบนี้ จะเอาปัญญาที่ไหนไปมีลูกกัน?

แต่ 2 ปีมานี้ เรากับสามีก็พยายามเจียดเวลานอนตาย มาทำ startup โครงการหนึ่งอยู่ค่ะ ถ้าสำเร็จก็จะได้เปลี่ยนวิถีชีวิตกันซะที แต่เรื่องตลกก็คือ เรื่องนี้ห้ามคุยกับพ่อแม่นะคะ เพราะถึงพ่อแม่จะพูดว่าคนสมัยนี้มีชีวิตลำบาก แต่ก็ไม่เห็นด้วยเลย ที่ลูกจะเป็นผู้ประกอบการ ยังคงศรัทธากับการมีรายได้สม่ำเสมอ (ที่ไม่พอกิน)

เอาล่ะค่ะ เราเองก็พยายามแก้ไขในส่วนของเราแล้ว ภาครัฐก็ควรแก้ไขเรื่องส่วนรวมบ้างไหมคะ?
- ไม่ได้หวังถึงขั้นลูกเรียนฟรี มีคุณภาพ แต่ช่วยปรับปรุงการศีกษาให้ดีด้วยค่ะ อันนี้เรื่องสำคัญนะคะ เรากับเพื่อนๆจบจาก รร.รัฐแห่งหนึ่ง แต่หลายคนเลยที่ลงความเห็นว่า ถ้ามีลูกจะไม่ให้ลูกเรียน รร.เดิมของตัวเอง เนื่องจากคุณภาพการศึกษาและสภาพแวดล้อมที่แย่ลงมาก สรุป...ก็ต้องส่งเรียนแพงๆอยู่ดี
- ไม่ได้หวังถึงขั้นพ่อแม่ป่วยรักษาฟรี แต่ 30 บาท หรือบัตรทอง อันนี้ไม่ไหมจริงๆค่ะ ต้องพาไป รพ.เอกชน ซึ่งไม่ใช่ขนหน้าแข้งร่วงค่ะ...ขนหัวลุก(เมื่อเห็นบิล)กันเลยทีเดียว ขอให้ควบคุมค่ารักษาให้เป็นธรรมด้วยค่ะ (คงกำไรเยอะมากแหละ ดูหุ้นกลุ่ม รพ. ขึ้นกันสนุกสนาน)
- นโยบายกระจายรายได้ขอจริงๆจังๆ ซักทีค่ะ แต่ละปีรู้สึกได้ว่าคนธรรมดาๆบ่นกันหนักขึ้นเรื่อยๆ ของแพง เงินหายาก อยู่ยาก เพิ่งอ่าน Forbes Thailand เล่มล่าสุด 25% ของ GDP ทั้งประเทศอยู่ในมือคนแค่ 50 คน แถมรวมขึ้นกันคนละหลายพันหลายหมื่นล้าน อืมมม...

พวกนี้ถ้าแก้ไขได้ ลดปัญหาได้บ้าง ชนชั้นกลางคงยอมมีลูกกันเพิ่มขึ้นค่ะ

สาธยายหมดแล้ว ใครมีความเห็นยังไงกันบ้าง ลองมาแชร์กันนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่